➤ เกร็ดความรู้ ระบบTCAS ↺
cr: https://www.mangozero.com/wp-content/uploads/2017/06/thai-university-central-admission-system-6.jpg
TCAS คืออะไร??
- TCAS เป็นระบบการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยรูปแบบใหม่ ซึ่งย่อมาจาก Thai University Central Admission System
- ไม่ใช่ระบบเอ็นทรานซ์ แต่เป็นการรวมวิธีการรับนักศึกษาทั้ง 5 รูปแบบมาไว้ด้วยกัน
cr: https://www.mangozero.com/wp-content/uploads/2017/06/thai-university-central-admission-system-2.jpg
TCAS ต่างจากระบบเดิมอย่างไร??
- การสอบของข้อสอบกลางทั้งหมดจะเลื่อนไปสอบหลังจากที่เด็กชั้น ม.6 เรียนจบการศึกษาแล้ว
- GAT/ PAT จัดสอบระหว่างวันที่ 24 – 27 กุมภาพันธ์ 2561
- O-NET จัดสอบระหว่างวันที่ 3 – 4 มีนาคม 2561
- 9 วิชาสามัญ จัดสอบระหว่างวันที่ 17 – 18 มีนาคม 2561
- กสพท. และวิชาเฉพาะของแต่ละมหาวิทยาลัย จัดสอบระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ – 12 เมษายน 2561
- นอกจากนี้ยังมีการเพิ่ม ภาษาเกาหลี เป็นภาษาเพิ่มเติมในการสอบ PAT7 ความถนัดทางภาษาต่างประเทศด้วย
cr: https://www.mangozero.com/wp-content/uploads/2017/06/thai-university-central-admission-system-3.jpg
TCAS มีข้อดีอย่างไรบ้าง??
- เพิ่มโอกาสความเท่าเทียมในการเข้ามหาวิทยาลัย
- ลดปัญหาการกันสิทธิ์คนอื่น (กั๊กที่)
- ลดปัญหาความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างคนรวยกับคนจน
- แก้ปัญหาวิ่งรอกสอบ เพราะระบบใหม่จะจัดช่วงเวลาการสอบหลังจากที่เด็กชั้น ม.6 เรียนจบการศึกษาแล้ว
cr: https://www.mangozero.com/wp-content/uploads/2017/06/thai-university-central-admission-system-4.jpg
รายละเอียดการคัดเลือก TCAS
- รอบที่ 1 : การรับด้วยแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) โดยไม่มีการสอบข้อเขียน
- สำหรับ : นักเรียนทั่วไป นักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ นักเรียนโควตา นักเรียนเครือข่าย
- ยื่นสมัครและคัดเลือกโดย : สถาบันอุดมศึกษา/ มหาวิทยาลัยโดยตรง
- ช่วงวันเปิดรับสมัคร และวันคัดเลือก :
- ครั้งที่ 1 : 1 ตุลาคม 2560 – 30 พฤศจิกายน 2560
- ประกาศผล : 22 ธันวาคม 2560
- ครั้งที่ 2 : 22 ธันวาคม 2560 – 28 กุมภาพันธ์ 2561
- ประกาศผล : 26 มีนาคม 2561
- รอบที่ 2 : การรับแบบโควตาที่มีการสอบปฏิบัติและข้อเขียน
- สำหรับ : นักเรียนที่อยู่ในเขตพื้นที่หรือภาค โควตาโรงเรียนในเครือข่าย และโครงการความสามารถพิเศษ
- คะแนนที่ต้องใช้ยื่น : GAT/PAT, 9 วิชาสามัญ
- ช่วงวันเปิดรับสมัคร และวันคัดเลือก : ธันวาคม 2560 – เมษายน 2561
- ประกาศผล : 8 พฤษภาคม 2561
- ยื่นสมัครและคัดเลือกโดย : สถาบันอุดมศึกษา/ มหาวิทยาลัยโดยตรง
- รอบที่ 3 : การรับตรงร่วมกัน
- สำหรับ : นักเรียนที่อยู่ในโครงการ กสพท. (กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย), โครงการอื่นๆ ตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
- ช่วงวันเปิดรับสมัคร และวันคัดเลือก : 9 – 13 พฤษภาคม 2561
- ประกาศผล : 8 มิถุนายน 2561
- การเลือกสอบ : สามารถสมัครสอบและเลือกได้ 4 สาขาวิชา โดยไม่มีลำดับ หมายความว่า 4 สาขาวิชา หรือ 4 มหาวิทยาลัยที่สมัครไปนั้นน้องๆ มีโอกาสผ่านการคัดเลือกทั้งหมด.. (แล้วค่อยเลือกมหาวิทยาลัยที่ต้องการศึกษาต่อในเคลียริ่งเฮาส์ของรอบที่ 3 อีกครั้ง) ซึ่งที่จะมีการจัดสอบร่วมกันในเวลาเดียวกัน โดยแต่ละมหาวิทยาลัยเป็นคนกำหนดเกณฑ์การคัดเลือกเอง
- รอบที่ 4 : การรับแบบ Admission
- สำหรับ : นักเรียนทั่วไป
- ช่วงวันเปิดรับสมัคร และวันคัดเลือก : 6 – 10 มิถุนายน 2561
- ประกาศผล : 13 กรฎาคม 2561
- การเลือกสอบ : สามารถสมัครสอบและเลือกได้ 4 สาขาวิชา โดยมีลำดับ (เหมือนปีที่ผ่านมา)
- รอบที่ 5 : การรับตรงแบบอิสระ (รอบเก็บตก)
- สำหรับ : นักเรียนทั่วไป
- ช่วงวันเปิดรับสมัคร และวันคัดเลือก : ภายในเดือนกรกฎาคม 2561
- การเลือกสอบ : สามารถสมัครสอบได้ตามความต้องการ โดยที่แต่ละมหาวิทยาลัยจะรับตรงด้วยวิธีการของมหาวิทยาลัยเอง
- ยื่นสมัครและคัดเลือกโดย : สถาบันอุดมศึกษา/ มหาวิทยาลัยโดยตรง
ข้อมูลเด็กซิ่ว เด็กอินเตอร์ ฯลฯ
cr: https://www.mangozero.com/wp-content/uploads/2017/06/thai-university-central-admission-system-8.jpg
สำหรับเด็กซิ่ว
เด็กซิ่วสามารถสมัครได้ทุกรอบที่มีการเปิดรับสมัคร โดยจะต้องเป็นไปตามคุณสมบัติและระเบียบการที่มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งระบุไว้
*เด็กซิ่ว = เด็กที่ลาออกจากการเป็นนิสิตนักศึกษาแล้วกลับมาเข้าระบบเพื่อแอดมิชชั่นใหม่
สำหรับเด็กอินเตอร์
กระทรวงศึกษาธิการเผยว่า เด็กที่จบจากโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทย หรือ จบการศึกษาจากต่างประเทศ ไม่ต้องเทียบวุฒิการศึกษา โดยสามารถสมัครสอบ(ตามเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด) ได้ 3 รูปแบบ คือ
- การสมัครในรอบที่ 1 : การรับด้วยแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) โดยไม่มีการสอบข้อเขียน
- อาจเป็นการยื่นคะแนนทางวิชาการ IELTS, TOEFL, SAT เป็นต้น และมีมีคุณสมบัติตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
- การสมัครในรอบที่ 3 หรือรอบที่ 5 : การรับตรงร่วมกัน, การรับตรงแบบอิสระ (รอบเก็บตก)
- โดยต้องมีการสอบเพิ่มเติม หรือมีคุณสมบัติตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
- การสมัครในรอบที่ 4 : การรับแบบ Admission
- โดยต้องมีคะแนนและใช้องค์ประกอบคะแนนตามที่กำหนด
สำหรับเด็กที่จะเข้ามหาวิทยาลัยราชภัฎ หรือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
นักเรียนที่ต้องการเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฎ หรือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล จะสามารถสมัครในรอบที่ 1-3 และรอบที่ 5 แต่จะไม่มีกาสอบรอบที่ 4 (Admission) เพราะว่าจะเป็นช่วงเปิดภาคเรียนของมหาวิทยาลัยทั้ง 2 กลุ่มแล้ว
TCAS กระจ่าง
วาง Plan TCAS #dek61
ฟิตเเน่น เตรียมความพร้อม ต่อสู้ระบบ TCAS
รวบรวมข้อสอบ O-Net ม.6 พร้อมเฉลยครับ
ข้อสอบ O-Net ปีการศึกษา 2548 (สอบ กพ. 2549)
ข้อสอบ O-Net ปีการศึกษา 2549 (สอบ กพ. 2550)
ข้อสอบ O-Net ปีการศึกษา 2550 (สอบ กพ. 2551)
ข้อสอบ O-Net ปีการศึกษา 2551 (สอบ กพ. 2552)
ข้อสอบ O-Net ปีการศึกษา 2552 (สอบ กพ. 2553)
Download ข้อสอบ O-Net 52 | Download เฉลย O-Net 52 |
---|---|
![]() | ![]() |
![]() | ![]() |
![]() | ![]() |
![]() | ![]() |
![]() | ![]() |
![]() | ![]() |
cr: http://www.trueplookpanya.com/data/product/media/hash_thumbnail/banner_img/theme_201606216405.png
ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ ปี 2555 (สอบ ม.ค. 2555)
ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ ปี 2556 (สอบ ม.ค. 2556)
- คณิตศาสตร์ 1 คลิกคณิตศาสตร์ คลิก + เฉลย ตอนที่ 1 คลิก ตอนที่ 2 คลิก
- ฟิสิกส์ + เฉลย คลิก
- เคมี คลิก
- ชีววิทยา คลิก
- ภาษาไทย คลิก
- สังคมศึกษา คลิก
- ภาษาอังกฤษ + เฉลย คลิก
ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ ปี 2557 (สอบ ม.ค. 2557)
- – คณิตศาสตร์ คลิก + เฉลย คลิก
- – ฟิสิกส์ คลิก
- – เคมี คลิก + เฉลย คลิก
- – ชีววิทยา คลิก
- – ภาษาไทย คลิก
- – สังคมศึกษา คลิก
- – ภาษาอังกฤษ คลิก
ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ ปี 2558 (สอบ ม.ค. 2558)
- – คณิตศาสตร์ คลิก
- – ฟิสิกส์ คลิก
- – เคมี คลิก
- – ชีววิทยา คลิก
- – ภาษาไทย คลิก
- – สังคมศึกษา คลิก
- – ภาษาอังกฤษ คลิก
ข้อสอบ 9 วิชาสามัญ ปี 2559 (สอบ ธ.ค. 2559
วีดีโอเตรียมตัวพร้อมสอบ
➤ เกร็ดความรู้ทั่วไปที่เด็กไทยควรรู้ ↺
ทั่วไปไทยแลนด์

สิทธิมนุษยชน

1.จังหวัดที่อยู่เหนือสุด จังหวัดเชียงราย
2.จังหวัดที่อยู่ใต้สุด จังหวัดนราธิวาส
3.จังหวัดที่มีจำนวนประชากรน้อยที่สุด จังหวัดระนอง
4.จังหวัดที่มีอาณาเขตติดต่อกับเขตจังหวัดอื่นๆมากที่สุด จังหวัดตาก มีเขตติดต่อกับจังหวัดอื่นๆ 9 จังหวัด
5.จังหวัดทางภาคใต้ของไทย ที่ไม่มีอาณาเขตติดต่อกับทะเลเลย จังหวัดยะลา,พัทลุง
6.ยอดเขาที่สูงที่สุด ยอดดอยอินทนนท์ สูง 2,580 เมตร จากระดับน้ำทะเล


cr: http://www.chiangmaiexpert.com/wpcontent/uploads/2016/09/%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B9%8C-1170x780.jpg (รูปขวา) http://www.ท่องทั่วไทย.com/wp-content/uploads/2014/02/0-inthanon-02.jpg (รูปซ้าย)
7.ภูเขาสำคัญทางภาคเหนือ มี 5 เทือกเขาสำคัญคือ แดนลาว,เพชรบูรณ์,ตะนาวศรี,ผีปันน้ำ, ขุนตาล
8.เกาะที่ใหญ่ที่สุดของไทย เกาะภูเก็ต กว้าง 20 กม. ยาว 45 กม.
9.เกาะที่เป็นท่าเรือสำคัญของไทย เกาะสีชัง
10.แม่น้ำที่ยาวที่สุด แม่น้ำเจ้าพระยา รวมกับแม่น้ำปิง (หนึ่งในต้นกำเนิดแม่น้ำเจ้าพระยา)
มีความยาวรวม 850 กม.(เจ้าพระยา 300 กม.,แม่น้ำปิง 550 กม.) แม่น้ำเจ้าพระยาออกสู่ ทะเลที่ จังหวัดสมุทรปราการ
11.คลองที่ยาวที่สุด คลองแสนแสบ ยาว 65 กม.
12.น้ำตกที่สูงที่สุด น้ำตกสิริภูมิ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่

13.ถนนสายแรกในประเทศไทย ถนนเจริญกรุง สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 5
14.ถนนสายที่ยาวที่สุด ถนนเพชรเกษม จากกรุงเทพมหานคร ถึง จ.นราธิวาส ยาว1,473 กม.
15.ทางรถไฟสายแรกของไทย ทางรถไฟสายกรุงเทพฯ-ปากน้ำ
16.ทางรถไฟสายที่ยาวที่สุด ทางรถไฟสายใต้ ยาวประมาณ 1,114 กม
17.อุโมงค์ที่ยาวที่สุด อุโมงค์ขุนตาล หรือ ถ้ำขุนตาล ที่ จ.ลำปาง
18.สะพานที่ยาวที่สุดของไทย สะพานติณสูลานนท์ จ.สงขลา
ข้ามมาจากบ้านเขาเขียวไปเกาะยอ และจากเกาะยอไปบ้านน้ำกระจาย มีความยาว 2,640เมตร

19.กษัตริย์ไทยพระองค์แรก พ่อขุนศรีอินทราทิตย์
20.นายกรัฐมนตรีคนแรกของไทย พระยามโนปกรณ์นิติธาดา
21.สมเด็จพระสังฆราชองค์แรกของเมืองไทย(กรุงรัตนโกสินทร์) สมเด็จพระสังฆราชศรี วัดระฆัง โฆสิตาราม ธนบุรี
22.ประธานสภาผู้แทนราษฎรคนแรกของไทย เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี
23.สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหญิงคนแรกของไทย นางอรพินท์ ไชยกาล
24.อธิบดีหญิงคนแรกของไทย คุณหญิงอัมพร มีศุข อธิบดีกรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ
25.จอมพลคนแรกของเมืองไทย จอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าฯกรมพระยาภาณุพันธ์ วงศ์วรเดช
26.นักดาราศาสตร์คนแรกของไทย รัชกาลที่ 4 (พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว)
27.ผู้คิดประดิษฐ์อักษรไทยเป็นคนแรก พ่อขุนรามคำแหง
28.ผู้คิดตัวพิมพ์อักษรไทยเป็นคนแรก ร้อยโท เจมส์ โลว์
29.ผู้เริ่มใช้กระแสไฟฟ้าคนแรกของไทย จอมพล เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี (เติม แสงชูโต)
30.ผู้ประดิษฐ์สามล้อขึ้นใช้ในประเทศไทยเป็นคนแรก นายเลื่อน พงษ์โสภณ
31.ผู้ให้กำเนิดลูกเสือไทยเป็นคนแรก รัชกาลที่ 6 (พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว)
32.ผู้ริเริ่มแท็กซี่ขึ้นในเมืองไทย พลโท พระยาเทพหัสดิน (ผาด เทพหัสดิน ณ อยุธยา)เมื่อปี พ.ศ.2466
33.ผู้ที่ริเริ่มใช้คำว่า "สวัสดี" พระยาอุปกิตศิลปสาร
34.ผู้ที่ได้รับยกย่องให้เป็น "บิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย" สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ
35.ผู้ที่ได้รับยกย่องให้เป็น "บิดาแห่งการแพทย์ไทย" สมเด็จพระราชบิดากรมหลวงสงขลานคริทร์
36.ฝาแฝดคู่แรกของไทย ฝาแฝด อิน-จัน เกิดเมื่อ 11 พฤษภาคม พ.ศ.2434 ที่ จ.สมุทรสงคราม
37.เรือกลไฟลำแรกของไทย เรือสยามอรสุมพล (เป็นเรือที่รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าฯให้พระยาศรี สุริยวงศ์ ต่อขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2398)
38.โรงพยาบาลแห่งแรกของไทย โรงพยาบาลศิริราช

39.มหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

40.แบบเรียนเล่มแรกของคนไทย หนังสือจินดามณี ที่พระโหราธิบดี เป็นผู้แต่ง
41.หนังสือไทยเล่มแรก หนังสือไตรภูมิพระร่วง
42.สภากาชาด ตั้งขึ้นเมื่อไหร่ ตั้งขึ้นในรัชกาลที่6 เดิมชื่อ สภาอุณาโลมแดง
43.เจดีย์ที่เก่าแก่ และใหญ่ที่สุด พระปฐมเจดีย์ ที่ จ.นครปฐม

44.พระปรางค์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย พระปรางค์ที่วัดอรุณราชวราราม(วัดแจ้ง ธนบุรี) 

สิทธิมนุษยชน

สิทธิมนุษยชน (Human Right) หมายถึง สิทธิที่มนุษย์ทุกคนมีความเท่าเทียมกัน มีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคลที่ได้รับการรับรอง ทั้งความคิดและการกระทำที่ไม่มีการล่วงละเมิดได้ โดยได้รับการ คุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และสนธิสัญญาระหว่างประเทศ
- ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ (Human Dignity) หมายถึง คุณสมบัติ จิตใจ สิทธิเฉพาะตัวที่พึงสงวนของมนุษย์ทุกคน และรักษาไว้มิให้บุคคลอื่นมาล่วงละเมิดได้ การถูกละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์จึงเป็นสิ่งที่ต้องได้รับการคุ้มครองและได้รับความยุติธรรมจากรัฐ
- สาเหตุที่มนุษย์ต้องได้รับความคุ้มครองสิทธิมนุษยชน เกิดจาก
2.1 มนุษย์ทุกคนเกิดมาแล้วย่อมมีสิทธิในตัวเอง
2.2 มนุษย์เป็นสัตว์สังคม
2.3 มนุษย์มีเกียรติภูมิที่เกิดมาเป็นมนุษย์
2.4 มนุษย์ทุกคนเกิดมามีฐานะไม่เท่าเทียมกัน
2.2 มนุษย์เป็นสัตว์สังคม
2.3 มนุษย์มีเกียรติภูมิที่เกิดมาเป็นมนุษย์
2.4 มนุษย์ทุกคนเกิดมามีฐานะไม่เท่าเทียมกัน
- หลักการสำคัญที่สุดของสิทธิมนุษยชน คือ มนุษย์ทุกคนมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ได้รับรองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ไว้ และกำหนดให้รัฐบาล ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐดำเนินการปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่โดยคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของประชาชนทุกคน
- การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย
4.2 การเข้ามามีส่วนร่วมในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน บุคคลควรมีส่วนร่วมในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในสังคมไทยต่อไปนี้
- - ศึกษาเรื่องสิทธิมนุษยชนในสังคมไทยที่พัฒนาความรู้ ทักษะ ค่านิยมในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
- - ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของตนเอง บุคลิกภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างเต็มที่
- - มีส่วนร่วมในกิจกรรมของชาติบ้านเมืองอย่างมีอิสรเสรีภาพ
- - ใช้สิทธิทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคมให้มีประสิทธิภาพ
- - ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับองค์กรที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย
มีบทบัญญัติเกี่ยวกับสิทธิ เสรีภาพและสิทธิมนุษยชนไว้หลายประการ ดังนี้
- ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
- ความเสมอภาคของบุคคล
- สิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย
- สิทธิของผู้ต้องหา
- สิทธิของพยานและผู้เสียหายในคดีอาญา
- สิทธิของเด็ก
- เสรีภาพในการนับถือศาสนา
- เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
- เสรีภาพทางการศึกษา
- สิทธิในทรัพย์สิน
- สิทธิในบริการสาธารณสุข
- สิทธิของคนพิการหรือทุพพลภาพและของคนชรา
- สิทธิของผู้บริโภค
- สิทธิของชุมชนท้องถิ่น
- เสรีภาพในการรวมกลุ่ม
- สิทธิในการรับรู้และมีส่วนร่วม
- สิทธิในการร้องทุกข์และฟ้องคดี
- สิทธิและเสรีภาพอื่นๆ
พันธกรณีระหว่างประเทศเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนของไทยในปัจจุบันประเทศไทยเป็นภาคีสนธิสัญญา ด้านสิทธิมนุษยชนซึ่งสหประชาชาติถือเป็น สนธิสัญญาหลัก จำนวน 5 ฉบับได้แก่
วันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ.1948 ประเทศสมาชิกสหประชาชาติได้รับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (Universal Declaration of Human Right: UDHR) โดยสมัชชาแห่งสหประชาชาติ ถือเป็นการกำหนดมาตรฐานสากลด้านสิทธิมนุษยชนซึ่งไทยเป็นประเทศหนึ่งที่ร่วมกับประเทศต่าง ๆ ให้การรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติสิทธิเด่น ๆ ที่ระบุไว้ในปฏิญญาสากล ว่าด้วยสิทธิมนุษยชนสิทธิต่อชีวิต เสรีภาพและความปลอดภัยของบุคคล การศึกษา เสรีภาพทางความคิด มโนธรรมและศาสนา เสรีภาพแห่งความคิดเห็น การแสดงออก การมีงานทำ การแสวงหาและได้รับการลี้ภัย ในประเทศอื่น (เป็นต้น) วันแห่งสิทธิมนุษยชนโลก ตรงกับวันที่ 10 ธันวาคมหน่วยงานในสหประชาชาติ (UN) ที่รับผิดชอบปัญหาสิทธิมนุษยชน (HR) คือ สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชน ที่เจนีวา ( ชื่อเดิมคือ Centre for Human ights) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
พันธกรณีระหว่างประเทศเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนของไทยในปัจจุบันประเทศไทยเป็นภาคีสนธิสัญญา ด้านสิทธิมนุษยชนซึ่งสหประชาชาติถือเป็น สนธิสัญญาหลัก จำนวน 5 ฉบับได้แก่
1.อนุสัญญาว่าด้วนสิทธิเด็ก
2.อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ
3.กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธฺพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
4.กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
5.อนุสัญญาว่าเ้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ
ค่านิยม 12 ประการ

1.ความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณ์ในสิ่งที่ดีงามเพื่อส่วนรวม 3.กตัญญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ 4.ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรง และทางอ้อม 5.รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันงดงาม 6.มีศีลธรรม รักษาความสัตย์ หวังดีต่อผู้อื่น เผื่อแผ่และแบ่งปัน 7.เข้าใจเรียนรู้การเป็นประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ถูกต้อง 8.มีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่ 9.มีสติรู้ตัว รู้คิด รู้ทำ รู้ปฏิบัติตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 10.รู้จักดำรงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว รู้จักอดออมไว้ใช้เมื่อยามจำเป็น มีไว้พอกินพอใช้ ถ้าเหลือก็แจกจ่ายจำหน่าย และ พร้อมที่จะขยายกิจการเมื่อมีความพร้อม เมื่อมีภูมิคุ้มกันที่ดี 11.มีความเข้มแข็งทั้งร่างกาย และจิตใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำ หรือกิเลส มีความละอาย เกรงกลัวต่อบาปตามหลักของศาสนา 12.คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม และของชาติมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง
--------------------------------------------------------------------
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
- http://news.thaipbs.or.th/content/263032
- https://blog.eduzones.com/jetty/167926
- http://www.tewfree.com
- https://campus.campus-star.com/education/24168.html
- http://www.webythebrain.com/article/admissions-9saman
- http://www.focusthailand.org
- https://khaniyom12.weebly.com/
- https://www.dek-d.com/board/view/1983210/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น